กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้เสนอ “มาตรการลดภาษีสำหรับผู้ติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อป” และ “มาตรการลดหย่อนภาษีในส่วนของนิติบุคคลที่มีค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ใน 13 รายการ” ต่อรัฐมนตรีพลังงาน เพื่อเตรียมยื่นเสนอ ครม. ให้เห็นชอบ และคาดว่าจะเริ่มใช้จริงได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2567
โดยอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เผยความคืบหน้าของมาตรการดังกล่าวว่า พพ.ได้เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการแก้ไขรายละเอียด เพื่อจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยยังคงกำหนดกลุ่มเป้าหมายเดิม กลุ่มบ้านที่อยู่อาศัย 9 หมื่นครัวเรือน สำหรับการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองภายในบ้าน และมีระบบโซลาร์รูฟท็อปไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ ซึ่งกระทรวงการคลังจะออกหลักเกณฑ์การลดหย่อนภาษีที่ชัดเจนต่อไป
ทั้งนี้คาดว่าจะช่วยทำให้เกิดการลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปประมาณ 20,250 ล้านบาท และช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้ 585 ล้านหน่วยต่อปี และช่วยลดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ได้ประมาณ 9,000 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,100 ล้านบาท รวมทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 0.28 ล้านตันต่อปี
นอกจากนี้ พพ. จะนำเสนอมาตรการลดหย่อนภาษีในส่วนของนิติบุคคลที่มีค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ใน 13 รายการ คือ ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, เครื่องปรับอากาศ, ตู้เย็นแสดงสินค้า, เครื่องสูบน้ำอัตโนมัติ, เครื่อง VSD, เครื่องอัดอากาศแบบลูกสูบ, ปั๊มความร้อน, เครื่องเชื่อมไฟฟ้า, ฟิล์มติดกระจก, สีทาอาคาร, มอเตอร์ไฟฟ้าเหนี่ยวนำ และกระจก ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าสะสม 5 ปี ได้ 29,020 ล้านหน่วยต่อปี และยังช่วยลดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวในราคาตลาดจรได้ 203 ล้าน MMBTU หรือคิดเป็นมูลค่า 105,551 ล้านบาท และลดการสะสมก๊าซเรือนกระจกได้ด้วย
Comments